บาคาร่า888888 เล่นยังไง ให้ได้เงิน

จากรูปตัวอย่างด้านบน สมมติถ้าเรานั่งอยู่ช่องที่ 3 เราจะสามารถเลือกแทงได้ 3 ช่อง คือ แบงเกอร์ เพลเยอร์ หรือเสมอ คนแจกไพ่(หรือเรียกว่าดีลเลอร์) จะแจกไพ่เป็นสองกอง คือ เพลเยอร์ และแบงเกอร์ จากนั้นก็นับแต้มกัน ซึ่งจะคล้ายๆ กับป้อกเด้งที่หลายท่านรู้จักนั่นแหละ และเมื่อไพ่กองไหนชนะ ผู้ที่แทงฝ่ายนั้นก็จะชนะ ได้เงินเดิมพัน ส่วนอีกฝ่าย แน่นอนว่าต้องเสียเดิมพัน โดยปกติจะจ่ายที่อัตรา 1:1 บางครั้งแบงเกอร์จะจ่าย 1:0.95 (แทง 100 ได้ 95) ขึ้นอยู่กับกติกา และการคิดคอมมิสชั่นของโต๊ะนั้นๆ แต่หากไพ่ออกเสมอ โต๊ะต้องจ่ายคนที่แทงเสมอในอัตรา 1:8 (แทง 1 ได้ 8) และคืนเงินแก่ผู้แทงเพลเยอร์ และแบงเกอร์ ไม่ต้องเสียเงินกันนะครับ

และถ้าเล่นเป็นบาคาร่าไลฟ์จะมีดีลเลอร์เป็นคนจริงที่คอยบริการแจกไพ่และเปิดไพ่ให้กับคุณ การแจกไพ่จะเริ่มต้นจากฝั่งละ 2 ใบ โดยจะแจกไพ่สลับกันครั้งละ 1 ใบ การเปิดไพ่เมื่อครบเวลาจะเริ่มเปิดจากทางฝ่ายของ Player หรือผู้เล่นก่อน 1 ใบ และสลับมาเปิดทางฝ่าย Banker หรือเจ้ามืออีก 1 ใบ แล้วกลับไปเปิดที่ Player ในใบที่ 2 และมาเปิดที่ Banker ในใบที่ 2 จนครบ 

สำหรับกติกา คือ ถ้าฝ่ายใดมีคะแนนต่ำกว่า 6 แต้มลงไป จะมีสิทธิ์เปิดไพ่ใบที่ 3 จากนั้นจะทำการตัดสินผลว่าฝ่ายใดได้แต้มมากกว่ากัน

สำหรับการนับแต้มไพ่ของทั้ง 2 ใบ ถ้าได้ 8 หรือ 9 แต้มจะถือว่าชนะ ซึ่งคะแนนสูงสุดของเกมบาคาร่า คือ 9 และรองลงมาคือ 8 แต้ม สำหรับการนับแต้มไพ่จะยึดหลักดังนี้

ไพ่ตั้งแต่ 2-9 จะนับตามคะแนนที่ปรากฏบนหน้าไพ่ เช่น 2 แต้ม คือ 2 คะแนน , 3 แต้ม คือ 3 คะแนน ไปจนถึง 9 แต้ม คือ 9 คะแนน 

ไพ่แต้ม 10, K, Q และ J จะถูกแทนค่าด้วย 0 หรือถูกเรียกว่าไพ่บอด

ไพ่ A หรือ Ace จะถูกแทนค่าด้วย 1 แต้ม

สำหรับไพ่แต้ม 10, K, Q และ J เมื่อประกอบเข้ากับไพ่ใบใดก็ตามจะไม่มีผลใดๆ ทั้งสิ้น 

เช่น ถ้าฝ่ายใดได้ได้ 2 + K เท่ากับว่าคุณจะได้เพียงแค่ 2 แต้มเท่านั้น ดีลเลอร์จะจั่วไพ่ใบที่ 3 ทันที และ A ที่มีค่าเท่ากับ 1 แต้ม ถ้าประกบคู่กับ 8 + A จะเท่ากับว่าฝ่ายนั้นได้ 9 แต้ม ซึ่งถือว่าชนะเดิมพันทันที 

ความพิเศษของการเปิดไพ่ฝ่าย Banker คือ ต่อให้เปิดไพ่มาได้ไพ่สูงถึง 7 แต้มก็ยังสามารถจั่วใบที่ 3 เพื่อลุ้นผลได้ 

ในขณะเดียวกันที่ฝ่าย Player เปิดมาได้ 7 แต้มจะหยุดทันที แต่รูปแบบการเปิดไพ่ลักษณะนี้จะขึ้นอยู่กับดีลเลอร์หรือผู้ให้บริการเกมแต่ละแห่ง